วันนี้จะมาคุยถึงแนวทางการลงทุนและเลือกหุ้นแบบผู้จัดการกองทุนกัน จริงๆ แล้วผู้จัดการกองทุนแต่ละท่าน ต่างก็มีวิธีการในการเลือกหุ้นหรือสินทรัพย์มาลงทุนแตกต่างกันไป ขนาดพนันออนไลน์ สล็อตออนไลน์ รับปั่นบา ยังมีให้เลือกหลายค่าย หลายรูปแบบ ทั้งนี้ความแตกต่างก็มาจากข้อจำกัดหรือนโยบายของกองทุนเอง เช่น เป็นกองทุนที่ลงแต่หุ้นขนาดใหญ่ หรือเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางกับขนาดเล็ก หรือเป็นกองทุนเกาะดัชนี ฯลฯ นอกจากนี้ก็มีความต่างในประสบการณ์ พื้นฐานความรู้ความถนัดที่ต่างกัน แนวทางที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้เป็นแนวทางพื้นฐานหลักๆ ที่ผู้จัดการกองทุนมักใช้ในการตัดสินใจลงทุนให้พอร์ต แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ทั้งหมด เพราะผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ในตลาดเงินตลาดทุนมานาน ย่อมต้องมีการพัฒนาเทคนิคเฉพาะตัวโดยอาศัยแหล่งข้อมูล
Top-Down Investing วิธีนี้เป็นพื้นฐานของการเลือกสินทรัพย์ลงทุนทั่วๆ ไปรวมกระทั่งหุ้น โดยการมองจากภาพใหญ่ เช่น ผู้จัดการกองทุนที่ลงทุนระดับโลกวิเคราะห์ว่าสหรัฐจะมีการเติบโตดีกว่าภูมิภาคอื่น ก็จะให้น้ำหนักการลงทุนกับตลาดสหรัฐมากกว่าภูมิภาคอื่น ผู้จัดการกองทุนที่ลงทุนเฉพาะในประเทศก็วิเคราะห์เศรษฐกิจในประเทศ หากพบว่าจะเติบโตได้ดีมาก ก็จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้น และวิเคราะห์ต่อว่าหากตลาดเป็นขาขึ้น หุ้นกลุ่มธุรกิจใดจะขึ้นได้สูงกว่ากลุ่มอื่น ก็ให้น้ำหนักการลงทุนกับกลุ่มธุรกิจนั้นมากเป็นพิเศษ
Bottom-up Investing แนวทางนี้เป็นการเลือกสินทรัพย์ลงทุนจากการวิเคราะห์ความแข็งแกร่งหรือศักยภาพในการเติบโตของบริษัทเป็นรายตัว โดยไม่คำนึงว่าบริษัทนั้นจะอยู่ในอุตสาหกรรมที่อาจไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วไปก็ได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ หุ้นของบริษัท อะเมซอน ซึ่งอยู่ในกลุ่มค้าปลีกที่ตลาดมองกันว่าเป็นกลุ่มที่แนวโน้มไม่สดใส แต่ในห้าปีที่ผ่านมาราคาหุ้นอเมซอนก็ปรับเพิ่มขึ้นจาก 200 กว่าเหรียญขึ้นมาใกล้ 1,000 เหรียญสหรัฐ จากการที่บริษัทวางแนวทางอี-คอมเมิร์ซมาก่อนบริษัทอื่น การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แนวทางนี้เป็นการประเมินและวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานทุกอย่างที่จะมีผลกระทบต่อราคาหุ้น ทั้งงบการเงิน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค แนวทางนี้ผู้จัดการกองทุนมักใช้ร่วมกับการวิเคราะห์พื้นฐาน โดยเลือกหุ้นโดยพื้นฐานที่ดีแล้ว ใช้กราฟเทคนิคในการหาจังหวะเข้าออกหุ้น แนวคิดพื้นฐานของวิธีนี้คือการเชื่อในจิตวิทยาของนักลงทุน เชื่อว่ารูปแบบของราคาและแนวโน้มได้สะท้อนมาจากการคาดการณ์ผลประกอบการของหุ้นตัวนั้นๆ แล้ว